ดีมานด์เหล็กพรวด งบไทยเข้มแข็งช่วยดันขยายตัว20%
 

นายวิกรม วัชรคุปต์ ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้คาดว่าปริมาณการใช้เหล็กของไทยจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 15-20% เนื่องจากโครงการก่อสร้างภายใต้งบลงทุนไทยเข้มแข็งจะเป็นรูปธรรมมากขึ้น และเศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก ส่วนราคาเหล็กปีนี้จะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยเหล็กรีดร้อนราคาอยู่ที่ตันละ 500-600 เหรียญสหรัฐ แม้ราคาน้ำมันตลาดโลกยังมีความผันผวน แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาเหล็ก ขณะที่ปัจจัยการเมืองจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาราคาเหล็ก ยกเว้นเกิดเหตุรุนแรงขึ้น

 



สำหรับโครงการลงทุนผลิตเหล็กต้นน้ำในไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาพื้นที่ที่เหมาะสม โดยมองไปที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ เช่น จ.ระยอง และจันทบุรี ซึ่งจะพัฒนาเป็นเมืองใหม่ หรืออีโค-ทาวน์ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม

 



"โครงการเหล็กต้นน้ำต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) และผลกระทบสุขภาพ(HIA) ซึ่งภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะเริ่มทำงานกับทีมที่ปรึกษา และคาดว่าภายใน 6 เดือนจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาได้ โดยเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นหลักเกณฑ์เรื่องการจัดทำ EIA และ HIA ของภาครัฐจะมีความชัดเจนมากขึ้น" นายวิกรม กล่าว

 



ด้านนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้โครงการลงทุนผลิตเหล็กต้นน้ำในไทยมีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าเมื่อดำเนินการเสร็จจะมีมูลค่ามากกว่า 800,000 ล้านบาท ส่วนการออก พ.ร.บ.เมืองอุตสาหกรรมใหม่ ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม คาดว่าจะได้ข้อสรุปเดือนมีนาคมนี้ ขณะเดียวกันกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เตรียมเดินทางไปชักจูงการลงทุน หรือโรดโชว์ที่อินเดีย เพื่อชักชวนนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในไทยด้วย

 

 




ที่มา แนวหน้า 3/02/2553