สวยด้วยพืช และมวลแมกไม้

สวยด้วยพืช และมวลแมกไม้

สวยด้วยพืช ไม่ใช่สวยด้วยแพทย์ เป็นการตกแต่งบ้านอย่างมีชีวิตชีวา เนื่องจาก ในปัจจุบันนี้มันร้อนรุ่มซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็ถูกโอบล้อมไปด้วยป่าคอนกรีต ซึ่งมันยิ่งทำให้จิตใจหดหู่ ความรู้สึกก็ยิ่งร้อนเร่า ลองหันมาแต่งบ้านด้วยความเขียวชุ่มชื่นกันดีกว่า เพื่อเป็นการหนีร้อนมาพึ่งเย็นไปในตัว เพราะพืชสีเขียวๆ และดอกไม้นานาพันธุ์ เป็นเหมือนอุปกรณ์เสริม ที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านของคุณ ไม่แพ้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นงามเลยทีเดียว


แถมเจ้าพืชสีเขียวๆ นี้ ยังเปรียบเสมือนเครื่องฟอกอากาศ ที่ช่วยทำความสะอาดอากาศได้ดีอีกด้วย รวมถึงดอกไม้ที่สวยสด ส่งกลิ่นหอมเย้ายวน ยังช่วยชาร์จพลังให้กลับฟื้นคืนมาได้อย่างเต็มเปี่ยม แต่วิธีการตกแต่งจะเป็นอย่างไร ควรเริ่มจากที่ตรงไหนต้องมาดูกัน
พืชสีเขียวต้นเล็กๆ สามารถเพิ่มชีวิตชีวาให้กับทุกห้องภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องครัว ห้องรับแขก หรือแม้แต่ห้องนอน เพราะด้วยสีเขียวของเจ้าพืชต้นเล็กๆ นี้แหละ ที่จะนำความชุ่มชื่นมาสู่อารมณ์ที่ห่อเหี่ยวให้เบิกบานได้อีกครั้ง เพียงแค่ลองหาแจกันสีขาวทรงเก๋ มาตั้งตามจุดต่างๆ ภายในบริเวณห้อง แล้วนำพืชใบเขียวมาเติมแต่ง ทั้ง เฟิร์น และพืชใบเขียวต่างๆ หรือแม้กระทั่งไม้ดอกที่โปรดปรานก็ย่อมได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การตกแต่งบ้านด้วยพืชสีเขียว หรือไม้ดอกนานาพันธุ์ คุณต้องสำรวจดูด้วยว่า พื้นที่ที่จะทำการตกแต่งนั้น ควรที่จะต้องมีแสงส่องเข้ามาอย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก หรือ ห้องครัว เนื่องจาก พันธุ์พืชเหล่านี้ต้องการแสงแดดในการสังเคราะห์อาหาร ซึ่งคุณควรเลือกพืชที่ต้องการแสงแดดน้อย หรือพืชที่สามารถเพาะปลูกในร่มได้จะดีที่สุด อีกทั้ง คุณอาจจะต้องหมั่นดูแล ไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำ หรือคอยตัดแต่ง จึงอาจจะเหมาะสำหรับคนที่รักต้นไม้เท่านั้น

สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมี เวลาในการดูแลเจ้าพวกนี้มากนัก แต่ใจก็รักสีเขียวของพันธุ์พืชซะเหลือเกิน ทางออกก็คือ การใช้พืช หรือ ต้นไม้เทียม ซึ่งมันก็สามารถที่จะให้ความรู้สึกที่สดชื่นได้เช่นกัน อีกทั้งการดูแลรักษาก็แสนง่ายดาย เพียงใช้เวลาแค่ครั้งคราวในการทำความสะอาด ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด หรือนำไปล้างน้ำก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย หรือหากคุณอยากที่จะเติมความสดชื่น ด้วยความสดของพืชสีเขียวจริงๆ ก็สามารถที่จะทำได้ด้วยการผสมผสานกันไป คือ ตกแต่งด้วยพืชของจริง และของเทียมผสมกันภายในพื้นที่หนึ่งๆ เพียงเท่านี้ก็ประหยัดการดูแลไปได้อีกเยอะทีเดียว

แต่สำหรับคนรักไม้ ดอก แค่ขอให้ได้เห็นหน้าก็เป็นอันว่าชื่นใจได้ทุกครา ก็อย่ารีรอที่จะนำมาประดับประดาใส่แจกันแล้วตั้งไว้ตามจุดต่างๆ อย่างเช่น โต๊ะกลาง บนตู้หนังสือ เพื่อให้ส่งกลิ่นหอมอบอวล เย้าย้วนตลอดวัน แต่หากใจรัก แต่กระเป๋ายังไม่หนักพอ ก็ควรเลือกที่จะเติมความหอม และความสดชื่นตามแต่โอกาสพิเศษเท่านั้นก็ได้ ซึ่งคุณควรเลือกดอกไม้ที่มีความทนทานอยู่สักหน่อย เพราะมันจะอยู่ได้หลายวัน อย่างเช่น ดอกลิลลี่ ดอกทิวลิป ดอกไฮเดรนเยีย ฯลฯ ซึ่งราคาอาจจะค่อนข้างสูงอยู่สักหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับโอกาสพิเศษของคุณอย่างแน่นอน

หากคุณต้องการที่ จะลงทุนเพียงแค่ครั้งเดียว แต่อยากจะใช้มันอย่างคุ้มค่าล่ะก็ ขอแนะนำว่าให้ใช้ดอกไม้เทียมแทนได้ แต่ก็ใช่ว่าจะเลือกแบบไก่กามาประดับบ้านนะ เพราะไหนๆ จะลงทุนอย่างคนมีรสนิยมทั้งที ก็ต้องให้มันดูดีกันหน่อย โดยการเลือกใช้ดอกไม้ประดิษฐ์ที่ทำจากผ้าไหมสีสวยสดไปเลย เพราะความสวยงามของผ้าไหม ก็ทรงคุณค่าในตัวมันเองอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษอีกหากต้องแสงแดด มันสามารถที่จะเปลี่ยนสีได้ด้วย ซึ่งจะทำให้สีเหลือบกันอย่างสวยงาม ส่วนเรื่องของการทำความสะอาดนั้นก็แสนง่าย เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ แล้วเช็ดเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ต้องคอยทำความสะอาดบ่อยๆ อีกด้วย

ห้องครัว เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เหมาะสำหรับการตกแต่งด้วยพืชสีเขียว ซึ่งสามารถที่จะใช้ไม้ใบ ไม้ประดับ หรือแม้กระทั่งพืชสวนครัวก็ยังได้ ลองนึกดูสิว่า มันจะดีแค่ไหน หากภายในห้องครัวเต็มไปด้วยกระถางต้นไม้น้อยใหญ่ อันเต็มไปด้วยสะระแหน่ โหระพา กระเพรา แม้กระทั่งต้นพริกแคระ แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไม้ดอกจะดีกว่า เพราะนอกจากจะไม่ได้กลิ่นอันหอมเย้ายวนแล้ว มันอาจจะเหี่ยวเฉาจากความร้อน หรือเขม่าควันจากการประกอบอาหารก็เป็นได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : decorreport